หลุมสิว ผิวไม่เรียบเนียน
แนวทางรักษาแบบครบวงจร
สารบัญ
รู้จักรอยหลุมสิว
หลุมสิว คือ รอยแผลเป็นจากสิว ที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้นมากที่สุด ส่วนใหญ่เกิดจากการอักเสบของสิวที่ลึกมากๆ หรือมีการบีบ แคะ แกะเม็ดสิว จนกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อและคอลลาเจนเพื่อซ่อมแซมผิวเกิดขึ้นอย่างไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดเป็นพังผืดและหลุมสิว ผิวหน้าจึงไม่เรียบเนียนจนกวนใจใครหลายคน การมีหลุมสิวบนใบหน้านั้น ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะถ้ายิ่งทิ้งไว้เป็นระยะเวลานานเท่าไหร่ การรักษายิ่งยากและใช้เวลารักษานานเช่นเดียวกัน
หลุมสิวมีกี่ประเภท
Rolling scar
หลุมสิวแบบคลื่น มีลักษณะเป็นแอ่งเว้าตื้น ไม่ลึกมากนัก ส่วนใหญ่เกิดจากการแกะเกาสิวที่ชั้นผิว สามารถรักษาได้ง่ายกว่าหลุมสิวแบบอื่นๆและได้ผลลัพธ์ค่อนข้างน่าพอใจ
Boxcar scar
หลุมสิวแบบกล่อง ขอบชัดเจน โดยที่ปากหลุมกับก้นหลุมมีขนาดเท่าๆกัน มีความรุนแรงระดับปานกลาง
Icepick scar
หลุมสิวแบบแหลม ปากหลุมกว้าง ก้นหลุมแคบลึก มีความรุนแรงมากที่สุดและพบได้บ่อยที่สุด การรักษาค่อนข้างยาก จำเป็นต้องรักษาอย่างต่อเนื่องและต้องใช้หลายวิธีร่วมกัน
การแยกประเภทของรอยหลุมสิว
เป็นขั้นตอนสำคัญในการรักษาหลุมสิว เพราะหลุมสิวแต่ละชนิด จะมีวิธีการรักษาเฉพาะที่แตกต่างกันไป อย่างไรก็ตาม สำหรับคนทั่วไปแล้วยังถือเป็นเรื่องค่อนข้างยาก เพราะต้องอาศัยประสบการณ์มากพอสมควร นอกจากนี้ แต่ละคนจะมีลักษณะของหลุมสิวมากกว่า 1 ชนิด การรักษาจึงจำเป็นต้องใช้หลายอย่างร่วมกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ
หลุมสิว มีวิธีรักษาอย่างไรบ้าง
เลเซอร์รักษาหลุมสิว ( Laser Resurfacing )
ปัจจุบันเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะสะดวก เจ็บน้อย และสามารถรักษาหลุมสิวได้หลายชนิด เลเซอร์รักษาหลุมสิวแต่ละเครื่องจะใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างกัน แต่หลักการจะคล้ายกันหมดคือ การปล่อยพลังงานเลเซอร์ผ่านชั้นผิวหนังทำให้เกิดความร้อนและแผลขึ้น กระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ส่งผลให้หลุมสิวตื้นขึ้น ซึ่งจะเหมาะกับหลุมสิวแบบกล่อง(Boxcar scar) และแบบคลื่น(Rolling scar) เทคโนโลยีของเลเซอร์หลุมสิว มีหลากหลายชนิดดังต่อไปนี้
เป็นการฉายแสงหลายความยาวคลื่น เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน จะเหมาะกับหลุมสิวแบบคลื่น (Rolling scar)
เลเซอร์รักษาหลุมสิวรุ่นแรก โดยเครื่องจะปล่อยพลังงานที่ค่อนข้างรุนแรงผ่านเข้าไปในชั้นผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ข้อเสียคือ ใบหน้าแดงเยอะ เกิดสะเก็ดขนาดใหญ่หลังทำ ทำให้มีระยะเวลาพักฟื้นที่ยาวนาน และยังอาจทำให้เกิดภาวะผิวคล้ำจากการอักเสบ โดยเฉพาะในผิวของคนเอเชียได้เยอะ (PIH, Post Inflammatory Hyperpigmentation) ซึ่งถ้าเกิดขึ้นแล้ว จะทำให้ยากต่อการรักษา ปัจจุบันจึงไม่ค่อยได้รับความนิยมค่ะ
เลเซอร์ที่ปล่อยพลังงานที่มีขนาดเล็กกว่า Fractional CO2 laser สะเก็ดของแผลจึงมีขนาดเล็กและทำให้ผิวหน้าแดงน้อยกว่า โดยเลเซอร์จะทะลุแต่ละชั้นของผิวหนัง ทำให้เซลล์ได้รับความร้อนจนเกิดการสร้างเซลล์ใหม่ขึ้น ข้อเสียของเลเซอร์ประเภทนี้คือ พลังงานอาจลงได้ไม่ลึกมากพอ จึงไม่เหมาะกับหลุมสิวที่ลึกและมีพังผืดหนาแน่น นอกจากนี้ผิวหนังชั้นบนจะได้รับพลังงานความร้อนที่สูงมาก ทำให้มีโอกาสเกิดภาวะผิวคล้ำหลังทำเลเซอร์ (PIH) ได้มากเช่นเดียวกับ Fractional CO2 Laser ค่ะ
เป็นเลเซอร์ที่ส่งพลังงานความร้อนจากคลื่นวิทยุ (Radiofrequency) เข้าสู่ชั้นใต้ผิวหนัง เป็นลักษณะปีระมิดคว่ำ เกิดการสะสมความร้อนเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น ข้อเสียคือ เกิดความร้อนสะสมที่ผิวชั้นตื้นเยอะ สะเก็ดจะมีขนาดใหญ่และเห็นค่อนข้างชัดเจนค่ะ
เทคโนโลยีใช้เข็มขนาดเล็กเจาะผ่านผิวหนังชั้นตื้นเข้าสู่ผิวหนังชั้นลึก จากนั้นเข็มจะปล่อยพลังงานคลื่นวิทยุใต้ชั้นผิว ข้อดีคือปล่อยพลังงานได้ค่อนข้างลึกกว่าเลเซอร์ชนิดอื่น แต่มีข้อเสียคือ รู้สึกเจ็บมาก และทำให้เกิดสะเก็ดแผลที่เกิดจากเข็มที่ค่อนข้างใหญ่ จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไหร่นัก
เทคโนโลยีที่พัฒนาต่อยอดจาก Fractional RF มีจุดเด่นเรื่องหัวปล่อยพลังงานเลเซอร์ขนาดเล็กมาก (Nanofractional RF) ก่อให้เกิดบาดแผลเล็กกว่าเลเซอร์หลุมสิวชนิดอื่น สะเก็ดจึงมีขนาดเล็ก รู้สึกเจ็บน้อยกว่า และใช้ระยะเวลาพักฟื้นสั้นกว่า นอกจากนี้ยังไม่ก่อเกิดภาวะผิวดำคล้ำ(PIH) หลังการทำเลเซอร์รักษาหลุมสิวอีกด้วย
เครื่องเลเซอร์ที่ปล่อยพลังงานออกมาในช่วงเวลาสั้นมาก ช่วยในการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น ข้อเสียคือเหมาะกับหลุมสิวลักษณะตื้น และมีราคาค่อนข้างสูง กรณีที่ใช้เครื่อง Picosecond Laser ที่มีประสิทธิภาพดีจริงๆ
การตัดเลาะพังผืดด้วยเข็ม ( Subcision )
การใช้เข็มขนาดเล็กสอดเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อตัดเลาะพังผืดที่ดึงรั้งหลุมสิวออก เหมาะกับหลุมสิวแบบกล่อง (Rolling scar) เป็นวิธีที่ค่อนข้างเจ็บ และอาจมีผลข้างเคียงเป็นแผลนูนหลังการทำ Subcision ได้
การแต้มกรดลอกผิว TCA ( Trichloroacetic acid )
เป็นวิธีที่เหมาะกับหลุมสิวแบบแหลม (Icepick scar) ด้วยการแต้มกรด TCA เดือนละ 1 ครั้ง เพื่อเร่งการเกิดผิวใหม่ ทำให้หลุมสิวค่อยๆตื้นขึ้น แต่ก็มีโอกาสเกิดรอยดำได้ หัตถการนี้ควรทำอย่างระมัดระวังโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เนื่องจากมีโอกาสเกิดการแพ้รุนแรง ผิวหนังบวม แดง หรือกลายเป็นรอยไหม้ดำทั่วใบหน้าจนอาจไม่สามารถรักษาให้กลับมาเหมือนเดิมได้อีกค่ะ
ยาทากรดวิตามิน A ( Tretinoin )
มีงานวิจัยรองรับชัดเจนว่า กรดวิตามิน A หรือ Tretinoin สามารถช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใต้ผิวได้ถ้าใช้เป็นประจำ อย่างไรก็ตามอาจได้ผลลัพธ์ที่ไม่ดีนัก เพราะไม่ได้ปรับเปลี่ยนลักษณะโครงสร้างของผิว และอาจมีฤทธิ์ระคายเคืองผิวเยอะได้ ดังนั้นการใช้ยากรดวิตามิน A ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์อย่างใกล้ชิดค่ะ
การกรอผิวด้วยอัญมณี ( Microdermal Abrasion )
เป็นการใช้อุปกรณ์ในการกรอผิวด้วยผง Aluminum oxide ช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นบน จะเหมาะกับหลุมสิวแบบคลื่น(Rolling scar) การรักษาประเภทนี้ต้องเว้นระยะ 1-2 สัปดาห์ เพื่อไม่ให้ผิวหน้าบางจนเกินไป
การผ่าตัดหลุมสิว ( Excision )
เป็นการใช้เข็มครอบบริเวณที่มีหลุมสิวแล้วตัดพังผืดออก เหมาะกับหลุมแบบกล่อง(Boxcar scar) หรือหลุมแบบแหลม (Icepick scar) แต่ข้อเสียคือเจ็บค่อนข้างมาก และการใส่เข็ม 1 ครั้งทำได้แค่เพียง 1 หลุมค่ะ
การฉีดสารเติมเต็ม ( Dermal Filler )
เป็นการเติมเต็มหลุมสิวหลังจากการใช้เข็มเลาะพังผืด(Subcision) ด้วย Hyaluronic acid ที่ใช้ในการฉีดเติมเต็มใบหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดพังผืดซ้ำอีก สามารถเห็นผลได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องรอให้ร่างกายสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาเอง เหมาะกับการรักษาหลุมสิวแบบคลื่น(Rolling scar) และแบบกล่อง(Boxcar scar)
รักษาหลุมสิวมานาน ทำไมถึงยังไม่ดีขึ้นสักที
หลายคนรักษาหลุมสิวมาแล้วผลลัพธ์ยังไม่ดีขึ้น อาจเกิดจากการเลือกวิธีการรักษาไม่ถูกวิธี ทำไม่ครบขั้นตอน ขาดความต่อเนื่อง และใช้ตัวยาหรือเครื่องเลเซอร์ที่ประสิทธิภาพไม่ดีพอค่ะ ซึ่งวิธีการรักษาหลุมสิวให้ได้ผลจริงนั้น เปรียบเสมือนกับการรีโนเวทบ้าน เราควรรักษาให้ครบทั้ง 3 ขั้นตอน ดังนี้
ปรับฐานบ้าน คือ การปรับฐานหลุมสิวให้ตื้นขึ้น
สร้างบ้าน คือ การกระตุ้นให้เกิดผิวใหม่ เติมเต็มหลุมสิว
ตกแต่งบ้าน คือ การปรับผิวส่วนบนให้อิ่มฟู เรียบเนียน และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
เลเซอร์ VenusViva นวัตกรรมรักษาหลุมสิว มาตรฐานอเมริกา
นวัตกรรมการรักษาหลุมสิว มาตรฐานใหม่ ที่ทำให้ลืมวิธีการรักษาหลุมสิวแบบเดิมๆ
จุดเด่นของ VenusViva คือ แผลมีขนาดเล็ก เจ็บน้อย พักหน้าไม่นานและเห็นผลจริงตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำค่ะ
รอยแผลขนาดเล็กจิ๋ว
ด้วยเทคโนโลยี Nanofractional RF เพียงรุ่นเดียว และสามารถลดรอยแผลเป็นจากสิว “ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ” จนคนรอบข้างไม่ทันสังเกต ว่าไปทำเลเซอร์หลุมสิวมา
พักหน้าไม่นาน(ระยะ Downtime สั้น)
ด้วยเทคโนโลยี Smart scan เอกสิทธิ์เฉพาะ VenusViva ที่ควบคุมการปล่อยพลังงานหลายรูปแบบอย่างแม่นยำ ทำให้ลดโอกาสผิวหน้าเบิร์นหลังทำเลเซอร์ จึงมีระยะเวลาพักฟื้นของใบหน้า (Downtime) สั้นกว่า
ปรับผิวหนังชั้นบนสุดให้เรียบเนียนและกระจ่างใสมากขึ้น (Skin Resurfacing)
ด้วยเทคโนโลยี Fractional Ablative ช่วยเปลี่ยนผิวหนังชั้นบนสุดที่หมองคล้ำ เผยผิวใหม่ที่เรียบเนียนและกระจ่างใสมากขึ้น เรียกได้ว่า แก้ปัญหาได้อย่างครอบคลุมทุกชั้นผิว
รู้สึกเจ็บน้อยกว่า
VenusViva ใช้เทคโนโลยี Nanofractional RF ไม่ได้ใช้เข็ม (Microneedling) เจาะทะลุผ่านผิวหนัง จึงไม่ต้องทนกับความเจ็บปวดและรอยแผลเยินที่เกิดจากเข็มอีกต่อไป
ช่วยลดเลือนริ้วรอยรอบดวงตาและรอบริมฝีปาก
ที่ไม่สามารถแก้ด้วยโบท็อกซ์ได้ ด้วยเทคโนโลยี Multipolar-RF ช่วยฟื้นฟูและยกกระชับผิวตั้งแต่ชั้นตื้นจนถึงชั้นลึก
ผ่านมาตรฐานอย.อเมริกา(USFDA)
มาตรฐานที่ยากแสนยาก ได้รับความนิยมจากคุณหมอผิวหนังทั่วโลก จึงมั่นใจได้ในประสิทธิภาพและความปลอดภัยค่ะ
วิดีโอข้อมูล VenusViva เพิ่มเติม
VenusViva แก้ปัญหาผิวได้อย่างหลากหลาย
VenusViva เป็นนวัตกรรมเลเซอร์รักษาหลุมสิว ที่ปล่อยพลังงานของคลื่นวิทยุขนาดเล็ก (Nanofractional RF) ไปยังผิวชั้นลึก ช่วยทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นและยังทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้นตั้งแต่ครั้งที่ทำ
นอกจากนี้ VenusViva ยังมีคุณสมบัติสร้างผิวชั้นบนขึ้นใหม่ (Skin Resurfacing) ช่วยเผยผิวใหม่ แก้ปัญหาริ้วรอยแห่งวัย ขนาดรูขุมขนกว้าง ปัญหาเม็ดสี ฝ้า กระ จุดด่างดำและผิวหย่อนคล้อยได้ เรียกได้ว่า แก้ปัญหาทุกชั้นผิวได้อย่างครอบคลุม
ความรู้สึกขณะทำ VenusViva
คุณจะรู้สึกเจ็บน้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับเลเซอร์รักษาหลุมสิวอื่นๆ โดยมีคะแนนความเจ็บขณะทำเพียง 2-3 คะแนน (เต็ม 10) หลังทำเสร็จจะมีอาการร้อนผ่าวๆราว 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นจะเหลือเพียงผิวแดงระเรื่อเท่านั้น
จากภาพจะเห็นว่ารอยแผลมีขนาดเล็ก ไม่เยิน และผิวไม่แดงมาก หลังจากทำเลเซอร์ 2 วันแล้วสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ สะเก็ดจะหลุดเองภายใน 5-7 วัน โดยผลการรักษาขึ้นกับตัวบุคคลค่ะ
ทำไมต้องรักษาหลุมสิวที่ Dr.Minna Clinic
ด้วยการรักษาหลากหลายรูปแบบ ปรับได้สำหรับรักษารอยหลุมสิวได้หลายประเภท เรียกได้ว่าครบจบในที่เดียว
ผ่านการอบรมการใช้เครื่องและตั้งค่าพลังงานอย่างถูกต้องกับทีมแพทย์ของบริษัท TechnicalBiomed โดยตรง
แต่ละคนจะมีลักษณะหลุมที่แตกต่างกัน จึงต้องใช้วิธีการรักษาหลายอย่างร่วมกัน ความชำนาญและประสบการณ์ของแพทย์จึงมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการรักษาหลุมสิว ทุกเคสจะได้รับการประเมินและให้คำปรึกษาโดยหมอมิ้นอย่างละเอียด เพื่อให้แก้ปัญหาได้แม่นยำและตรงจุดที่สุด
มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการรักษา
เครื่องมือทุกชิ้นผ่านการฆ่าเชื้อโดยเครื่องอบไอน้ำมาตรฐานโรงพยาบาล
ไม่แพงเว่อร์ สามารถเปรียบเทียบก่อนได้
สามารถปรึกษาปัญหากับคุณหมอได้โดยตรง
หลังทำเลเซอร์หลุมสิว Venusviva ดูแลตัวเองอย่างไร
แม้ว่าเลเซอร์หลุมสิว Venusviva จะใช้เทคโนโลยี Nanofractional RF ที่สร้างบาดแผลขนาดเล็กจิ๋ว ช่วยให้ผิวไม่แดง ซึ่งมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงค่อนข้างน้อยอยู่แล้ว แต่การดูแลตัวเองหลังทำเลเซอร์หลุมสิวอย่างถูกต้องถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากค่ะ
เพราะการปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องจะช่วยให้ผลลัพธ์ของการสร้างผิวใหม่ และกระตุ้นคอลลาเจนเป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนอันไม่พึงประสงค์ เช่น ผิวแดง อักเสบ ติดเชื้อซ้ำ หรือการเกิดรอยดำ ดังนั้นเราจึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำหลังการทำเลเซอร์หลุมสิวอย่างเคร่งครัด ดังนี้ค่ะ
รีวิวหลุมสิว
รีวิวรูขุมขนกว้าง จุดด่างดำ
รีวิวรอยแผลเป็น รอยแตกลาย
Testimonial หลุมสิว
Testimonial
ขอบพระคุณทุกท่านที่วางใจใช้บริการของเรา
“รอยยิ้มของคุณคือของขวัญที่ดีที่สุดของเรา”