ร้อยไหม (Thread Lifting)

ร้อยไหมหน้าเรียว

ยกหน้าให้ตึง ดึงหน้าให้วี

ร้อยไหม(Thread Lift) เป็นวิธีการยกกระชับหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดที่นิยมกันอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยวิธีการสอดไหมละลายเกรดทางการแพทย์เข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง จากนั้นทำการดึงไหมไปตามทิศทางที่ถูกต้อง เงี่ยงของไหมจะเกี่ยวชั้นใต้ผิวหนังให้ยกกระชับขึ้น ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวสวย และยังกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเส้นใยอิลาสตินและคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ช่วยให้ผิวกระชับอิ่มฟูขึ้น ผลทำให้ใบหน้าเราดูเด็กลงด้วยค่ะ

แม้ว่าหลายคนจะบอกว่าการร้อยไหมไม่ค่อยได้ผลแล้ว แต่งานวิจัยหลายฉบับยังชี้ให้เห็นประโยชน์ของการร้อยไหมเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยอยู่ สำหรับความคิดเห็นของหมอ การร้อยไหมเหมาะการแก้ไขปัญหาใบหน้าที่หย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัดได้ดี แต่ควรจะเลือกเคสให้เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของการยกกระชับที่ต้องการค่ะ

ทางเลือกของการแก้ไขปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย

  1. HIFU หรือ Ulthera ปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างมากในการแก้ไขความหย่อนคล้อยของใบหน้า เพราะเป็นทางเลือกที่สะดวก ปลอดภัยและไม่มีบาดแผล เหมาะอย่างยิ่งกับคนที่อายุไม่เยอะ มีความหย่อนคล้อยไม่มาก ต้องการให้ใบหน้ากระชับ อยากฟื้นฟูผิวให้อิ่มฟูและเต่งตึง
  2. ฉีดสารคลายกล้ามเนื้อกรามและลิฟท์หน้า เหมาะสำหรับคนที่ต้องการให้ใบหน้าเรียวขึ้น ด้วยการลดขนาดกรามที่ใหญ่ พร้อมแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยด้วยการลิฟท์หน้า อีกทั้งยังต้องการลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยบนใบหน้าด้วยการฉีดเพียงครั้งเดียว ซึ่งตัวยาที่มีงานวิจัยรองรับจริงจังเรื่องการลิฟท์หน้า คือ Dysport ค่ะ
  3. การร้อยไหม ทางเลือกของการแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยของใบหน้าอย่างอยู่หมัด เหมาะกับคนที่มีอายุ 30-50 ปี ที่มีใบหน้าหย่อนคล้อยเยอะและมีร่องแก้มลึก การร้อยไหมช่วยทำให้กรอบหน้าชัด ใบหน้าวีเชฟขึ้นได้ทันทีหลังทำ นอกจากนี้เรายังสามารถร้อยไหมร่วมกับวิธีการยกกระชับอื่นๆเพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่าได้ เช่น การทำ HIFU, Ulthera หรือฉีดลิฟท์กรอบหน้าค่ะ

ร้อยไหมเหมาะกับใคร

คนที่มีปัญหาแก้มหย่อนคล้อย เหนียงเยอะ กรอบหน้าไม่ชัด
คนที่ต้องการปรับรูปหน้า หน้าตอบ และหน้าไม่เท่ากัน
คนที่มีผิวเหี่ยว รูขุมขนกว้างจากการขาดคอลลาเจน
คนที่อยากให้ผลลัพธ์การยกกระชับรวดเร็ว และใช้ระยะเวลาพักฟื้นสั้น

ในความคิดเห็นของหมอ เคสที่เหมาะสมกับการร้อยไหมที่สุด คือ คนที่มีอายุ 30-50 ปี มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว และไม่สูบบุหรี่ เนื่องจากร่างกายจะสามารถสร้างคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ

ร้อยไหมอันตรายจริงมั้ย

การร้อยไหมถือว่าเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง เพราะเส้นไหมจะสามารถละลายไปได้เองภายใน 6-12 เดือนโดยที่ไม่ตกค้างในร่างกาย แต่ต้องเลือกใช้เส้นไหมละลายที่ผ่านมาตรฐาน อย. ไทย เลือกทำกับคุณหมอที่ผ่านการฝึกเทคนิคการร้อยไหมมาอย่างถูกต้อง สถานที่และอุปกรณ์ที่ใช้ต้องมีความสะอาดมาตรฐานเดียวกับห้องผ่าตัดเท่านั้นค่ะ

อย่างไรก็ตามการร้อยไหมอาจเกิดผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรงได้บ้าง เช่น รอยบวม ช้ำหรือมีเลือดซึมตามรูไหม ซึ่งหายได้เองหรือสามารถแก้ไขได้ภายใน 1 สัปดาห์ค่ะ

ทำไมราคาร้อยไหมแต่ละคลินิกถึงแตกต่างกัน

ราคาของการร้อยไหมจะขึ้นกับชนิดและคุณภาพของไหมที่คุณหมอเลือกใช้ ซึ่งไหมแต่ละรุ่นก็มีคุณสมบัติต่างกัน ย่อมมีต้นทุนที่แตกต่างกันด้วย นอกจากนี้การวิเคราะห์ปัญหาของใบหน้า(Facial Designs) เทคนิคการร้อยและประสบการณ์ของคุณหมอ ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับของการร้อยไหมให้ได้ผลลัพธ์สวยถูกใจ ไม่เจ็บตัวฟรีค่ะ

ร้อยไหมแบบไหนถึงเหมาะกับเรา

ปัจจุบันเส้นไหมที่นิยมใช้ในทางความงามจะใช้เป็นชนิดไหมละลาย เนื่องจากมีความปลอดภัยสูง สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติภายใน 6-12 เดือน โดยเส้นไหมจะมีด้วยกันหลายชนิด แต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติ ข้อดี ข้อสังเกตและมีเทคนิคการร้อยที่แตกต่างกัน ได้แก่

01
ไหมเรียบ (Mono Threads) หรือ ไหมที่ไม่มีเงี่ยง

จะช่วยเรื่องการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนในผิวหนังชั้นตื้น แต่ช่วยยกกระชับค่อนข้างน้อย ปัจจุบันจึงไม่ค่อยได้รับความนิยมค่ะ

02
ไหมก้างปลา (Barbed Threads) มีหลายดีไซน์

สามารถเรียกได้หลายชื่อขึ้นกับลักษณะรูปร่างของเส้นไหม เช่น ไหมเงี่ยง ไหมกุหลาบหรือไหมทอนาโด เคยได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะสามารถใช้ยกกระชับกรอบหน้าขึ้นได้ในทันที โดยผลลัพธ์จะอยู่นานประมาณ

03
ไหม PCL (Polycaprolactone)

ไหมก้างปลาที่ถูกพัฒนาให้อยู่นานขึ้นถึง 12-18 เดือน แต่เส้นไหมที่อยู่ในร่างกายได้นานกว่า ไม่ได้แปลว่าการยกกระชับจะอยู่นานกว่า เนื่องจากเมื่อเวลาผ่านไป 6-8 เดือน ชั้นผิวที่ยึดเกาะกับไหมจะหลุดออกจากเส้นไหมไปก่อน

04
ไหมโครงร่างตาข่าย(Tesslift Soft)

เส้นไหมที่ดีไซน์ออกมาพิเศษแบบ 2 ชั้นสานกันเป็นร่างแหรอบทิศ 360 องศา สามารถร้อยยกใบหน้าได้ 2 ทิศทาง เป็นเส้นไหม 1 ใน 4 รุ่น ที่มีความปลอดภัยสูงและผ่าน อย.ไทย สำหรับใช้ในการยกกระชับและช่วยสร้างคอลลาเจนได้เป็นอย่างดี

รู้จักไหมโครงตาข่าย Tesslift Soft ตัวจบของการร้อยไหม

ยกกระชับได้มากกว่า

ยกกระชับได้มากกว่า เส้นไหม Tesslift เป็นเส้นไหมเงี่ยงที่หล่อขึ้นใหม่ (Molding) ไม่ได้ใช้เลเซอร์ตัดเหมือนไหมทั่วไป ดังนั้นเงี่ยงจึงแข็งแรง ทำให้ยึดเกาะกับผิวได้แน่นกว่า

อยู่ได้นานกว่าถึง 1-2 ปี

เมื่อเวลาผ่านไป 6-8 เดือนหลังจากเส้นไหม Tesslift สลายไปแล้ว คอลลาเจนที่สร้างขึ้นสานกันเป็นร่างแห จะช่วยพยุงใบหน้าทดแทนเส้นไหม ทำให้ผลลัพธ์คงตัวอยู่นานกว่าไหมชนิดอื่น ช่วยให้การยกกระชับเป็นไปอย่างสมบูรณ์และไม่ต้องเจ็บตัวทำการร้อยไหมบ่อยๆ

กระตุ้นให้สร้างคอลลาเจนได้ดีกว่า

โครงสร้างของเส้นไหมที่ออกแบบมา 2 ชั้น ข้างในเป็นไหม PDO และมีโครงตาข่ายสานกันเป็นร่างแห 360 องศารอบนอก เอกสิทธิ์เฉพาะ Tesslift Soft เท่านั้น คอลลาเจนที่ถูกร่างกายสร้างขึ้น สานกันเป็นร่างแหทำให้ช่วยพยุงผิวได้ดีกว่าไหมก้างปลาทั่วไป นอกจากนี้คอลลาเจนที่สร้างขึ้น ยังช่วยลดริ้วรอยตื้น ให้ใบหน้าดูเต่งตึง อิ่มฟู และดูอ่อนเยาว์มากขึ้นด้วยค่ะ

คุ้มค่ากว่า

ด้วยเทคนิคการร้อยพิเศษคือ ร้อยได้ 2 ทิศทางด้วยไหมเพียงเส้นเดียว นั่นคือ ร้อยไหม Tesslift 1 เส้นเท่ากับการร้อยไหมธรรมดาถึง 2 เส้น การร้อยไหมเทคนิคพิเศษนี้ เส้นไหมจะอยู่ภายในชั้นผิวทั้งหมดโดยที่ไม่ได้ทำการตัดไหม ช่วยในเรื่องการยกกระชับและกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนได้ดีกว่าเส้นไหมชนิดอื่นค่ะ

เจ็บน้อย บวมช้ำน้อยกว่า

ด้วยเทคนิคการฉีดยาชาสูตรเฉพาะแบบ Tumescent และร้อยด้วยเทคนิคเข็มปลายทู่ จึงบาดเจ็บต่อชั้นผิวหนังน้อย ส่งผลให้บวมไม่เยอะ สามารถเห็นผลชัดเจนทันทีหลังทำ และเข้าที่ที่สุดภายใน 1 เดือน

ปลอดภัยสูง

เนื่องจากเป็นไหมเพียง 1 ใน 4 แบรนด์ที่ผ่าน อย. ไทย สำหรับใช้เฉพาะการยกกระชับหน้า (ไหมแบรนด์อื่นๆ ผ่าน อย. สำหรับใช้เย็บลิ้นหัวใจและลำไส้เท่านั้น) นอกจากนี้เส้นไหมเป็นชนิด PDO จะอยู่ในร่างกายเพียง 6 เดือนและสลายได้เองตามธรรมชาติ 100%

รู้จักไหม Mint Lift สำหรับเน้นยกกรอบหน้าเป็นพิเศษ

เส้นไหมถูกสร้างด้วยการหล่อขึ้นรูป(Molding) มีความแข็งแรงสูง เงี่ยงของไหมเรียงตัว 360 องศา เกิดจุดยึดเกาะที่มากกว่า ทำให้มีประสิทธิภาพในการยกใบหน้าดีกว่าและอยู่นานกว่าไหมแบบอื่น ๆ

มีความยืดหยุ่นสูง สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ 100%

มีความยืดหยุ่นสูง สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ 100%

ด้วยการร้อยเทคนิคเข็มปลายทู่ ทำให้เจ็บและบวมช้ำน้อย

เนื่องจากเส้นไหมสามารถกระตุ้นสร้างคอลลาเจนได้ดี ช่วยลดริ้วรอยตื้น ให้ผิวเรียบเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

เป็นเส้นไหมเพียง 1 ใน 4 ที่ได้รับ อย. ไทย สำหรับการยกกระชับหน้า

ตารางเปรียบเทียบร้อยไหมแบบไหนเหมาะกับเรา

หลายคนคงสงสัยว่าใบหน้าของเรา เหมาะกับการร้อยไหมชนิดอะไร การเลือกชนิดของเส้นไหมที่ร้อยจะขึ้นกับปัญหาที่ต้องการแก้ไข คุณสมบัติพิเศษของไหม และงบประมาณ โดยที่ Dr.Minna Clinic มีไหมให้เลือก 3 ชนิด ปรับได้ตามปัญหาของแต่ละคน คุณหมอสรุปมาให้สั้นๆ ดังนี้ค่ะ

Tesslift Soft ไหมโครงตาข่าย

คุณสมบัติ

  1. เงี่ยงแข็งแรงกว่า เพราะถูกหล่อขึ้นใหม่(Molding) 
  2. เส้นไหมมีโครงตาข่ายล้อมรอบ 360 องศา ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนสานกันเป็นร่างแหเพื่อช่วยพยุงผิวไว้ แม้เส้นไหมจะสลายไปแล้ว 
  3. ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี ไม่ต้องเจ็บตัวบ่อย
  4. เทคนิคเข็มปลายทู่ บวมช้ำน้อย
  5. มาตรฐาน KFDA CE ยุโรป และ อย.ไทย

เหมาะกับ ผิวหย่อนคล้อยร่วมกับแก้มตอบ เนื้อแก้มน้อย มีริ้วรอยและร่องแก้ม ผิวขาดคอลลาเจน

Mint Lift

คุณสมบัติ

  1. เส้นไหมแข็งแรง เพราะถูกหล่อขึ้น(Molding) 
  2. เงี่ยงของไหมเรียงตัว 360 องศา ยึดเกาะผิวได้ดี ช่วยยกกระชับได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  3. ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 1 ปี
  4. เทคนิคเข็มปลายทู่ บวมช้ำน้อย
  5. มาตรฐาน USFDA KFDA CE ยุโรป และ อย.ไทย

เหมาะกับ คนที่ต้องการเน้นกระชับกรอบหน้าและลดเหนียงหย่อนคล้อย

ไหมก้างปลา(Barb Suture)

คุณสมบัติ

  1. เงี่ยงไหมใช้เลเซอร์ตัด เรียงสลับซ้ายขวา
  2. ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6 เดือน
  3. เทคนิคเข็มปลายแหลม สอดเข้าชั้นใต้ผิวหนังได้ง่าย

เหมาะกับ กรอบหน้าหย่อนคล้อยไม่มาก และมีงบประมาณจำกัด

ร้อยไหมเจ็บมั้ย อยู่ได้นานแค่ไหน

การร้อยไหมจะรู้สึกเจ็บเฉพาะตอนฉีดยาชาค่ะ จากนั้นจะรับความรู้สึกเพียงตอนสอดไหมเข้าไปใต้ชั้นผิวหนังเท่านั้น โดยผลลัพธ์การยกกระชับของการร้อยไหมจะอยู่นาน 6 เดือนถึง 2 ปีขึ้นกับชนิดของเส้นไหม และการคงอยู่ของอิลาสตินของแต่ละคน

เลือกร้อยไหมที่ไหนดี

01
เทคนิคและประสบการณ์ของคุณหมอ

การร้อยไหมให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีนั้นต้องอาศัยฝีมือ ทักษะความชำนาญและประสบการณ์ของคุณหมอ

02
เลือกคลินิกที่สะอาด มีมาตรฐาน มีใบอนุญาตถูกต้อง

ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะการร้อยไหมกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานหรือหมอกระเป๋า มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่อันตรายต่อร่างกายได้ เช่น ไหมทะลุ ติดเชื้อ เป็นหนอง ซึ่งจะแก้ไขได้ยากมากค่ะ

03
เลือกชนิดและรุ่นของไหมที่ผ่าน อย. สำหรับใช้ยกกระชับหน้า

การันตีถึงประสิทธิภาพ และความปลอดภัย นอกจากนี้ควรเลือกไหมที่สามารถแก้ไขปัญหาของเราได้ตรงจุด ซึ่งอาจจำเป็นต้องปรึกษากับคุณหมอก่อนค่ะ

04
ดูรีวิวและความคิดเห็นของลูกค้า

เพื่อประเมินผลงาน และคุณภาพการบริการของการร้อยไหมค่ะ

ทำไมต้องร้อยไหมที่ Dr.Minna Clinic

– แพทย์เทรนเนอร์สอนร้อยไหม Tesslift Soft Thailand
– คุณหมอผิวหนัง Diploma ตจวิทยาและตจศัลยศาสตร์ สถาบันโรคผิวหนัง หลักสูตรนานาชาติ
– ประสบการณ์การร้อยไหมมานานกว่า 7 ปี ผ่านการอัพเดทเทรนด์ความงาม และเทคนิคการร้อยไหมอยู่เสมอ มั่นใจได้ในเทคนิค ฝีมือและความปลอดภัย

ตอบโจทย์ทุกความหย่อนคล้อย ผ่านมาตรฐาน อย. ไทย มั่นใจได้ในประสิทธิภาพและความปลอดภัย

เครื่องมือทุกชิ้นผ่านการทำความสะอาดด้วยเครื่องอบไอน้ำมาตรฐานโรงพยาบาล

คุ้มค่า ไม่แพงเว่อร์

ขอดูเพิ่มเติมได้ค่ะ

ไม่ยัดเยียดคอร์ส สามารถปรึกษาปัญหากับคุณหมอได้โดยตรง

หลังร้อยไหม ดูแลตัวเองอย่างไร

สิ่งที่ต้องทำหลังจากการร้อยไหมถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อให้ผลลัพธ์การร้อยไหมคงอยู่ได้นาน และได้ประสิทธิภาพการยกกระชับอย่างเต็มที่ นอกจากนี้การปฏิบัติตัวที่ถูกต้องยังลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง ลดการบวมช้ำให้เกิดขึ้นน้อยลง โดยเฉพาะแรกหลังการร้อยไหมเสร็จใหม่ๆ จะเป็นช่วงที่เราต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดค่ะ

รีวิวร้อยไหม Tesslift

รีวิวร้อยไหม Mint

รีวิว ร้อยไหมก้างปลา

Testimonial ร้อยไหม

Testimonial คลินิก

ขอบพระคุณทุกท่านที่วางใจใช้บริการของเรา

“รอมยิ้มของคุณคือของขวัญที่ดีที่สุดของเรา

Start typing and press Enter to search

Shopping Cart