รู้จัก CO2 laser
เลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 Laser) คือ เลเซอร์ที่นำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาเป็นตัวกลาง มีความยาวคลื่น10,600 นาโนเมตร และมีคุณสมบัติในการดูดซึมน้ำที่ผิวหนังได้ดี สามารถกระตุ้นให้เกิดความร้อนบริเวณผิวหนัง เพื่อใช้สลายเนื้อเยื่อที่ไม่ต้องการได้เป็นอย่างดี
CO2 laser มีความแม่นยำและปลอดภัยสูง เลือกทำลายเฉพาะเนื้อเยื่อที่ต้องการ โดยไม่สร้างความเสียหายให้กับเนื้อเยื่อโดยรอบ ไม่มีเลือดออก และไม่ทิ้งรอยแผลเป็น จึงได้รับความนิยมอย่างมากในการรักษาปัญหาผิวหนังดังนี้
CO2 laser ใช้รักษาอะไร
- ไฝ(Nevus) คือ ความผิดปกติในการสร้างเม็ดสีของเซลล์ที่สร้างเม็ดสีชั้นหนังกำพร้า(Melanocyte) มีลักษณะนูนขึ้นมาจากผิวรอบข้าง
- ขี้แมลงวัน(Lentigine) จริงๆก็คือ ไฝชนิดหนึ่ง แต่มีลักษณะเรียบไปกับผิวหนัง เกิดจากความผิดปกติในการสร้างเม็ดสีของ Melanocyte เช่นเดียวกัน
- ติ่งเนื้อ(Skin Tags/Soft Fibroma) คือ ก้อนเนื้อที่มีขนาดเล็ก นุ่ม มีลักษณะเป็นติ่งอยู่บนผิวหนัง มักเกิดกับคนที่มีอายุ 50-60 ปี พบได้บ่อยในบริเวณข้อพับ เช่น ลำคอ รักแร้ ลำตัว ใต้ราวนม ซึ่งจะเกิดการระคายเคืองจากการเสียดสีได้บ่อย
- กระเนื้อ(Seborrheic Keratosis) เป็นก้อนเนื้อชนิดที่ไม่ใช่มะเร็ง มีลักษณะเป็นติ่งเนื้อนูนขึ้นมาจากผิวหนัง มีสีดำคล้ำ มักเกิดกับคนที่มีอายุ 40-60 ปี พบได้บ่อยที่ตำแหน่งใบหน้า หน้าอก ลำตัวและแผ่นหลัง
- ไขมันที่เปลือกตา(Xanthelasma) เป็นความผิดปกติที่เกิดจากการสะสมของไขมันบริเวณเปลือกตา มีความสัมพันธ์กับโรคไขมันในเลือดสูงและโรคหัวใจ ซึ่งการกินยาควบคุมระดับไขมันในเลือดไม่ได้ช่วยให้ก้อนไขมันสะสมที่เปลือกตานี้หายไปได้
หลังทำ CO2 Laser ดูแลตัวเองอย่างไร
หลังทำเลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 Laser) เพื่อกำจัดรอยโรคไม่ต้องการ จะทำให้เกิดบาดแผลขนาดเล็กขึ้น ดังนั้นการปฏิบัติตัวอย่างถูกวิธี จะช่วยให้แผลหายไว ไม่กลับมาเป็นซ้ำ และลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ผิวอักเสบ ติดเชื้อซ้ำซ้อน และรอยแผลเป็น ดังนั้นเราจึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำหลังทำ CO2 Laser อย่างเคร่งครัดค่ะ
Testimonial
ขอบคุณทุกท่านที่วางใจใช้บริการของเรา
“รอยยิ้มของคุณคือของขวัญที่ดีที่สุดของเรา”
