Skin Quality ปรับคุณภาพผิว ทวงคืนความอ่อนเยาว์ แบบก้าวกระโดด
สารบัญ
- รู้จัก Natural Skin Quality คุณภาพผิวดีแม้ไม่แต่หน้า
- เมื่ออายุมากขึ้น ผิวของเราก็แก่ลง (Aging Skin)
- Sculptra : ตัวช่วยกระตุ้นคอลลาเจน บูสท์ผิวกระชับ อ่อนเยาว์ มาตรฐานอเมริกา
- Rejuran : เพื่อผิวฉ่ำวาวราวกระจก เคล็ดลับของการฟื้นฟูผิวตัวแม่
- Belotero Revive : ฟิลเลอร์งานผิว เพื่อความฉ่ำโกลว์ตัวแม่
-
Venusviva : เลเซอร์เปลี่ยนผิวใหม่ เผยผิวใส เรียบเนียน สม่ำเสมอ
Natural Skin Quality คุณภาพผิวดี แม้ไม่แต่งหน้า
เมื่อเรามีอายุมากขึ้น ผิวจะเริ่มมีริ้วรอยตื้นๆ หย่อนคล้อย ไม่กระชับ เหมือนตอนที่เรายังเด็กๆ ถือเป็นภาวะเสื่อมสภาพของผิวที่เกิดขึ้นตามอายุ การปรับคุณภาพผิวหรือ Skin Quality คือ การทำให้ผิวสวย สุขภาพดี แลดูอ่อนกว่าวัยจากภายในแม้เปลือยผิว ถือเป็นเทรนด์ใหม่มาแรงในปัจจุบัน โดยเราจะดูจาก 4 คุณสมบัติของผิวได้แก่
- Skin Firmness ผิวกระชับ ยืดหยุ่น
- Skin Tone Evenness สีผิวสม่ำเสมอ
- Skin Surface Regularities ผิวเรียบเนียน
- Sebaceous Gland Activity & Pore Size ผิวไม่มัน รูขุมขนกระชับ
เมื่ออายุมากขึ้น ผิวของเราก็แก่ลง (Aging Skin)
ก่อนอื่นเราควรรู้จัก 3 ส่วนประกอบสำคัญในโครงสร้างของผิวค่ะ อันได้แก่
- Hyaluronic acid โมเลกุลที่ชอบน้ำ มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
- Elastin คือ โปรตีนที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นแก่ผิว
- Collagen คือ โปรตีนสำคัญที่ช่วยพยุงผิว โดย collagen type 1 เป็นคอลลาเจนชนิดที่สำคัญกับผิวหนังที่สุด
ในผิวที่อ่อนเยาว์ Hyaluronic acid, Elastin และ Collagen จะมีปริมาณและคุณภาพมากพอที่จะทำให้ผิวกระชับ ยืดหยุ่นและเรียบเนียน แลดูอ่อนเยาว์ แต่เมื่อเรามีอายุมากขึ้นหรือสัมผัสกับปัจจัยภายนอกที่ทำให้ผิวแก่ (เช่น การสูบบุหรี่ ความเครียด นอนไม่เพียงพอ) ทั้ง 3 ส่วนประกอบจะมีปริมาณและคุณภาพล ส่งผลให้คุณภาพผิวแย่ลง มีความหย่อนคล้อยและริ้วรอยแห่งวัยเกิดขึ้นค่ะ
คอลลาเจนสำคัญอย่างไร ทำไมต้องกระตุ้นคอลลาเจน
- คอลลาเจน คือ โปรตีนชนิดหนึ่ง ช่วยพยุงโครงสร้างผิว ให้มีความยืดหยุ่น และยังช่วยเสริมสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อ
- การโดนแดด และการสูบบุหรี่ ทำให้คอลลาเจนในร่างกายเสื่อมสภาพ
- คอลลาเจนจะลดลงปีละ 1% เมื่อเข้าสู่ช่วงอายุ 20 ปีขึ้นไป และการสร้างคอลลาเจนลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่ออายุ 45 ปี
- การกินคอลลาเจนไม่ช่วย เนื่องจากคอลลาเจนจะถูกย่อยในทางเดินอาหารกลายเป็นกรดอะมิโนในที่สุด
- การทาคอลลาเจนไม่ช่วย เนื่องจากโมเลกุลของคอลลาเจนมีขนาดใหญ่จึงไม่ซึมผ่านผิวหนังได้
- การทำ Ultherapy, HIFU หรือเลเซอร์ จะเกิดความร้อนขึ้นใต้ชั้นผิว ช่วยให้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินได้
การทาครีม หรือการทานคอลลาเจน ยากที่ช่วยปรับคุณภาพผิวให้ดีขึ้นได้อย่างทันใจ เพราะตัวครีมเองดูดซึมได้น้อย กว่าจะเห็นผลลัพธ์จริงๆ อาจจะต้องใช้เวลานานหรือไม่เห็นผลเลย ปัจจุบันจึงมีตัวยาหรือเครื่องมือช่วยบูสท์ผิวให้เด็กแบบก้าวกระโดดอยู่หลาย ตัวดังนี้ค่ะ
Sculptra ตัวช่วยกระตุ้นคอลลาเจน บูสท์ผิวกระชับ อ่อนเยาว์ มาตรฐานอเมริกา
Sculptra คืออะไร
Sculptra เป็น Collagen biostimulator (สารที่กระตุ้นสร้างคอลลาเจน) ตัวแรกของโลก โดยมีส่วนประกอบเป็น poly-L-lactic acid (PLLA) ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนชนิดที่ 1 ทดแทนคอลลาเจนที่สูญเสียไปได้ถึง 66.5% นิยมใช้กันใน 40 ประเทศทั่วโลก มายาวนานกว่า 20 ปี มีงานวิจัยรองรับกว่า 50 ฉบับ อีกทั้งยังผ่านมาตรฐานองค์การอาหารและยา สหรัฐอเมริกา (USFDA) ตลอดจนอีกหลายประเทศทั่วโลก รวมถึง อย. ไทย จึงมั่นใจได้ในประสิทธิภาพและความปลอดภัยค่ะ
Sculptra ช่วยเรื่องอะไร
ช่วยให้ผิวกระชับ อิ่มฟู และช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย คืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวโดยรวม โดยต้องรอผลลัพธ์จากการกระตุ้นสร้างคอลลาเจนหลังฉีดประมาณ 3 สัปดาห์ค่ะ
Sculptra เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ มีริ้วรอยแห่งวัย
- ผู้ที่ต้องการให้ผิวแน่น อิ่มฟู
- ผู้ที่ต้องการคงผลลัพธ์ยาวนาน 2 ปี ไม่อยากฉีดบ่อย
Sculptra ได้ผลดีจริงมั้ย
แม้ว่า Sculptra จะเป็นตัวยาที่เข้ามาใหม่ในประเทศไทย แต่ในต่างประเทศมีที่ใช้กว่า 40 ประเทศทั่วโลก มากว่า 25 ปีแล้ว นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยรองรับหลายฉบับ ว่าสามารถกระตุ้นคอลลาเจนชนิดที่ 1 อันเป็นส่วนสำคัญสำหรับการฟื้นฟูผิวให้กระชับ เต่งตึงได้ถึง 66.5% หลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือน ซึ่งยังไม่มีตัวยาใดที่สามารถกระตุ้นสร้างคอลลาเจนได้เทียบเท่ากับ Sculptra ค่ะ
Sculptra ต้องฉีดกี่ครั้ง อยู่ได้นานเท่าไหร่
แนะนำให้ฉีด 1-2 ขวดต่อเนื่องกัน 3 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 1 เดือน จะสามารถกระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจนพยุงผิวได้นานถึง 25 เดือน แต่ถ้าฉีดเพียง 1 ครั้ง ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้เพียง 4 เดือนค่ะ
ตัวอย่างผู้ป่วยที่ใช้ Sculptra
ข้อควรปฏิบัติหลังการฉีด Sculptra
การดูแลหลังฉีด Sculptra จะคล้ายกับการดูแลหลังจากการฉีดฟิลเลอร์ เช่น ประคบเย็นเพื่อช่วยเรื่องการลดบวม หลีกเลี่ยงความร้อน ซาวน่า หรือออกกำลังกายจัดๆ 24 ชั่วโมงแรกหลังฉีด แต่สิ่งที่แตกต่างจากการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ และมีความสำคัญอย่างมากคือ ต้องทำการนวดหลังฉีดด้วยเทคนิค Triple Fives คือ นวดครั้งละ 5 นาที 5 ครั้งต่อวัน ติดต่อกันนาน 5 วัน เพื่อช่วยให้ยากระจายตัวได้ดีค่ะ
Video เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Sculptra
Rejuran เพื่อผิวฉ่ำวาวราวกระจก เคล็ดลับของการฟื้นฟูผิวตัวแม่
Rejuran คืออะไร
เมโสหน้าใสสูตรพรีเมียม ที่มีส่วนประกอบเป็น 2% Polynucleotide สกัดมาจากปลาแซลม่อนในธรรมชาติ ที่มีลักษณะ DNA ใกล้เคียงกับโครงสร้างของผิวมนุษย์มากที่สุด ตัวยาจะช่วยกระตุ้นเซลล์ Fibroblast ให้สร้างคอลลาเจนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยสร้างผิวใหม่ และฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลาย ช่วยให้ผิวเรียบเนียน อิ่มฟู รูขุมขนกระชับและฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว ให้ผิวแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
Rejuran ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา ประเทศเกาหลีใต้ (KFDA) และ อย.ไทย จึงมั่นใจได้ในประสิทธิภาพและความปลอดภัยค่ะ
Rejuran ช่วยเรื่องอะไร
ช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงจากภายใน ปรับผิวเรียบเนียน กระจ่างใส ควบคุมความมันและกระชับรูขุมขน
Rejuran เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีผิวหมองคล้ำ ผิวแห้งกร้าน รูขุมขนกว้าง
- ผู้ที่มีหลุมสิว ผิวไม่เรียบเนียน
- ผู้ที่ต้องการมีผิวเรียบเนียน เต่งตึง ดูสุขภาพดี
Rejuran ได้ผลดีจริงมั้ย
Rejuran มีส่วนประกอบหลักเป็น Polynucleotide สกัดจากปลาแซลม่อนในทะเลธรรมชาติ ซึ่งช่วยให้ร่างกายสร้างเซลล์ไฟโบรบลาสต์ เกิดการกระตุ้นให้สร้างคอลลาเจนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งช่วยผิวชุ่มชื้นให้กับผิว นอกจากนี้ Rejuran ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและเพิ่มความหนาแน่นแก่ผิว รวมๆแล้ว Rejuran ช่วยฟื้นฟูผิว ทำให้ผิวกระชับ อิ่มฟู มีความกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น และยังเพิ่มความยืดหยุ่น ให้ผิวแข็งแรง ดูสุขภาพดีขึ้นอีกด้วยค่ะ
Rejuran ต้องฉีดกี่ครั้ง อยู่ได้นานเท่าไหร่
แนะนำให้ฉีด 2-4 cc จำนวน 3 ครั้งขึ้นไปห่างกัน 2-3 สัปดาห์จะทำให้เห็นผลชัดเจน ผิวแข็งแรง เรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอ รูขุมขนกระชับ แลดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดี ซึ่งจะสามารถคงผลลัพธ์ได้นาน 6-12 เดือน
ข้อควรปฏิบัติหลังการฉีด Rejuran
การดูแลตัวเองหลังฉีด Rejuran จะคล้ายกับการดูแลตัวเองหลังฉีดหน้าทั่วไป แต่ถ้าอยากให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี สามารถคงผลลัพธืได้ยาวนานขึ้น ควรปฏิบัติตามนี้ค่ะ
Video เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Rejuran
Belotero Revive ฟิลเลอร์งานผิว เพื่อความฉ่ำโกลว์ตัวแม่
Belotero Revive คืออะไร
ฟิลเลอร์แบรนด์ Belotero จากสวิตเซอร์แลนด์ รุ่นเดียวที่ผสาน Hyaluronic acid ที่มีคุณสมบัติเติมเต็มน้ำแก่ผิวกับ Glycerol ที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ Belotero Revive เป็นฟิลเลอร์ที่เน้นการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ฉ่ำโกลว์ เผยผิวเป็นเงาสะท้อนคล้ายกระจก (Glass skin) ซึ่งเป็นเทรนด์ผิวยอดฮิตในปัจจุบัน Belotero Revive ผ่านมาตรฐานองค์การอาหารและยา สหรัฐอเมริกา (USFDA) รวมถึง อย. ไทย จึงมั่นใจได้ในประสิทธิภาพและความปลอดภัยค่ะ
Belotero Revive ช่วยเรื่องอะไร
Belotero Revive สามารถทำให้ผิวดีขึ้นใน 4 มิติ ได้แก่
- Skin Hydration ผิวชุ่มชื้น อิ่มน้ำ
- Skin Firmness ผิวแน่นกระชับ มีความยืดหยุ่น
- Skin Tone Evenness สีผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอ
- Skin Glow ผิวกระจ่างใส เนียนเด้ง สไตล์เกาหลี
Belotero Revive เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีผิวแห้งกร้าน ขาดน้ำ แต่งหน้าไม่ติด
- ผิวไม่ยืดหยุ่น หรือมีริ้วรอยตื้น
- ผู้ที่ต้องการให้ผิวอิ่มน้ำ ฉ่ำโกลว์แบบสาวเกาหลี (Glass Skin)
Belotero Revive ได้ผลดีจริงมั้ย
แม้ว่า Sculptra จะเป็นตัวยาที่เข้ามาใหม่ในประเทศไทย แต่ในต่างประเทศมีที่ใช้กว่า 40 ประเทศทั่วโลก มากว่า 25 ปีแล้ว นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยรองรับหลายฉบับ ว่าสามารถกระตุ้นคอลลาเจนชนิดที่ 1 อันเป็นส่วนสำคัญสำหรับการฟื้นฟูผิวให้กระชับ เต่งตึงได้ถึง 66.5% หลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือน ซึ่งยังไม่มีตัวยาใดที่สามารถกระตุ้นสร้างคอลลาเจนได้เทียบเท่ากับ Sculptra ค่ะ
Belotero Revive ต้องฉีดกี่ครั้ง อยู่ได้นานเท่าไหร่
แนะนำให้ฉีด 1-2 cc เพียง 1 ครั้ง จะสามารถคงผลลัพธ์ได้นานถึง 6-9 เดือน
ตัวอย่างผู้ป่วยที่รักษาด้วย Belotero Revive
ข้อควรปฏิบัติหลังการฉีด Belotero Revive
การดูแลหลังฉีด Belotero Revive จะเหมือนกับการดูแลหลังจากการฉีดฟิลเลอร์ โดยมีจุดประสงค์คือ การป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ และให้ผลลัพธ์คงอยู่นานที่สุด ซึ่งมีวิธีการดูแลตัวเองดังต่อไปนี้ค่ะ
Video เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Belotero Revive
Venusviva เลเซอร์เปลี่ยนผิวใหม่ เผยผิวใส เรียบเนียน สม่ำเสมอ
Venusviva คืออะไร
Venusviva เป็นเลเซอร์ที่รู้กันดีว่าสามารถรักษาหลุมสิวได้เป็นอย่างดี โดยมีจุดเด่นในเรื่องของแผลเล็ก เจ็บน้อย พักหน้าไม่นาน แต่เห็นผลจริงตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ นอกจากนี้ Venusviva ยังผ่านมาตรฐานองค์การอาหารและยา ประเทศสหรัฐอเมริกา USFDA และนิยมใช้กันหลายประเทศทั่วโลกอีกด้วยค่ะ
นวัตกรรมเลเซอร์เปลี่ยนผิว (Skin Resurfacing)
Venusviva ใช้พลังงานคลื่นวิทยุขนาดเล็ก (Nanofractional RF) พร้อมเทคโนโลยี Smartscan ที่ปล่อยเลเซอร์อย่างแม่นยำ ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นใต้ผิว ปรับผิวให้เรียบเนียน สม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติ Fractional Ablative ที่เปลี่ยนผิวชั้นบนที่หมองคล้ำ กลับเป็นผิวใหม่ที่กระจ่างใสมากยิ่งขึ้น (Skin Resurfacing) อีกทั้งยังไม่ก่อเกิดภาวะผิวดำคล้ำ(PIH) หลังการทำเลเซอร์อีกด้วย
Venusviva เหมาะกับใคร
- ผู้ที่อยากปรับคุณภาพผิว แต่กลัวเข็ม หรือไม่ชอบการฉีดหน้า
- ผิวมีรอยหลุมสิว ไม่เรียบเนียน รูขุมขนกว้าง
สรุปจุดเด่นของ Venusviva
- รอยแผลขนาดเล็กจิ๋ว ด้วยเทคโนโลยีคลื่นวิทยุขนาดเล็ก Nanofractional RF ที่สามารถปรับผิวให้เรียบเนียน อิ่มฟู และลดรอยแผลเป็นจากสิวตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
- พักหน้าไม่นาน(ระยะ Downtime สั้น) ด้วยเทคโนโลยี Smart scan เอกสิทธิ์เฉพาะ VenusViva ที่ควบคุมการปล่อยพลังงานหลายรูปแบบอย่างแม่นยำ ทำให้ลดโอกาสผิวเบิร์นหลังทำเลเซอร์และมีระยะเวลาพักฟื้น (Downtime) สั้นกว่า
- ปรับคุณภาพผิวชั้นบน (Skin Resurfacing) ด้วยเทคโนโลยี Fractional Ablative ช่วยเปลี่ยนผิวหนังชั้นบนสุดที่หมองคล้ำ เผยผิวใหม่ที่เรียบเนียนและกระจ่างใสมากขึ้น แก้ปัญหาได้ครบทุกชั้นผิว
- เจ็บน้อยกว่า ด้วยใช้เทคโนโลยี Nanofractional RF ที่ไม่ได้ใช้เข็ม (Microneedling) เจาะทะลุผ่านผิวหนัง ทำให้ไม่ต้องทนกับความเจ็บปวดและรอยแผลเยินอันเกิดจากการใช้เข็ม
- ช่วยลดเลือนริ้วรอยรอบดวงตาและรอบริมฝีปาก ที่ไม่สามารถแก้ด้วยโบท็อกซ์ได้ ด้วยเทคโนโลยี Multipolar-RF ช่วยฟื้นฟูและยกกระชับผิวตั้งแต่ชั้นลึกจนถึงชั้นตื้น
- ผ่านมาตรฐานอย.อเมริกา(USFDA) และ อย.ไทย ได้รับความนิยมจากคุณหมอผิวหนังทั่วโลก มั่นใจได้ในประสิทธิภาพและความปลอดภัยค่ะ
รีวิวการปรับสภาพผิวด้วย Venusviva
รีวิวการรักษาหลุมสิวด้วย Venusviva
ข้อควรปฏิบัติหลังการทำเลเซอร์ Venusviva
การปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องหลังทำเลเซอร์ Venusviva จะช่วยให้ผลลัพธ์ของการสร้างผิวใหม่ และกระตุ้นคอลลาเจนเป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ และยังลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนอันไม่พึงประสงค์ เช่น ผิวแดง อักเสบ ติดเชื้อซ้ำ หรือการเกิดรอยดำได้หลังทำเลเซอร์ ดังนั้นเราจึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำหลังการทำเลเซอร์ Venusviva ดังนี้
Video เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Venusviva
อยากปรับคุณภาพผิว เปลี่ยน Skin Quality เลือกอะไรดี
การเลือกทำหัตถการอะไรนั้น จะขึ้นกับสภาพผิว ข้อห้ามและความต้องการของแต่ละคน ดังนั้นสิ่งสำคัญอันดับแรก คือการประเมินโดยแพทย์ ซึ่งควรมีประสบการณ์เพียงพอที่จะต้องมองปัญหาให้ขาด และมีความชำนาญในการแก้ไขปัญหานั้นเป็นอย่างดีเท่านั้น สำหรับความแตกต่างสามารถสรุปได้คร่าวๆ ดังนี้ค่ะ
- Sculptra เหมาะสำหรับ ผิวหย่อนคล้อย ผิวเหี่ยว ไม่กระชับอันเกิดจากการขาดคอลลาเจนใต้ผิว
- Rejuran เหมาะสำหรับ ผิวหมองคล้ำ แห้งกร้าน ไม่เรียบเนียน รูขุมขนกว้าง ต้องการผิวอิ่มฟู เต่งตึง ดูสุขภาพดี
- Belotero Revive เหมาะสำหรับ ผิวแห้งกร้าน ขาดน้ำเป็นพิเศษ ขาดความยืดหยุ่นและมีริ้วรอยร่องลึก
- Venusviva เหมาะสำหรับ คนที่ไม่ชอบการฉีดหน้า กลัวเข็ม มีรอยหลุมสิว ผิวไม่เรียบเนียน รูขุมขนกว้าง
เลือกปรับคุณภาพผิว (Skin Quality)ที่ไหนดี
1 .เลือกใช้ตัวยาแท้ เครื่องแท้ ตรวจสอบกับผู้นำเข้าหรือผู้ผลิตได้ เพราะปัจจุบันตัวยาปลอมได้ระบาดอย่างหนัก ยอมจ่ายเงินเพิ่มนิดหน่อยใช้ยาแท้ ตรวจสอบได้ดีกว่าค่ะ
2. เลือกทำกับคุณหมอที่มีประสบการณ์ สามารถประเมินปัญหาของผิวหน้าอย่างแม่นยำ ตรงจุด มีความรู้ทางกายวิภาค และผลิตภัณฑ์เป็นอย่างดี
3. เลือกทำกับคลินิกที่สะอาด มีมาตรฐานและใบอนุญาตถูกต้อง
ทำไมต้องปรับคุณภาพผิว เปลี่ยน Skin Quality ที่ Dr.Minna Clinic
- ใช้ตัวยาแท้ เครื่องแท้ นำเข้าอย่างถูกต้อง ตรวจสอบให้ดูก่อนทำทุกครั้ง
- ฉีดโดยแพทย์ผู้ชำนาญการปรับสภาพผิว และมีความรู้ด้านกายวิภาคเป็นอย่างดี
- ผลิตภัณฑ์และเครื่องมือหลากหลาย ได้มาตรฐาน ครบจบในที่เดียว
- มีระบบติดตามอาการอย่างใกล้ชิด สามารถปรึกษาหลังทำได้ตลอด
- ให้คำปรึกษากับคุณหมอโดยตรง ไม่มีระบบเซลล์
Testimonial คลินิก
ขอบพระคุณทุกท่านที่วางใจใช้บริการของเรา
“รอยยิ้มของคุณคือของขวัญที่ดีที่สุดของเรา”